สำนักงานชลประทานที่ 6 (ลุ่มน้ำชีตอนบน-ตอนกลาง) และสำนักงานชลประทานที่ 7 (ลุ่มน้ำชีตอนล่าง) ร่วมประชุมวางแผนบริหารจัดการน้ำฤดูฝนปี 2564 เตรียมพร้อมรับมือน้ำหลากลุ่มน้ำชี ตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ วางแนวทางให้การช่วยเหลือประชาชนหากเกิดอุทกภัยในฤดูฝนที่จะถึงนี้
นายศักดิ์ศิริ อยู่สุข ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 6 เปิดเผยว่า ตามการคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยา ว่าในปีนี้จะมีปริมาณฝนตกใกล้เคียงกับปี 2551 และจะมีฝนตกหนักในช่วงเดือน ส.ค. – ก.ย. 2564 สำนักงานชลประทานที่ 6 จึงได้ร่วมบูรณาการบริหารจัดการลุ่มน้ำชี ร่วมกับสำนักงานชลประทานที่ 7 เพื่อวางแผนการบริหารจัดการน้ำให้ปริมาณน้ำต้นทุนในอ่างเก็บน้ำมีเพียงพอสำหรับใช้ในฤดูฝนนี้และเก็บกักน้ำไวใช้ในฤดูแล้งหน้า รวมถึงวางแผนป้องกันและบรรเทาอุทกภัยในลุ่มน้ำชี ตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ
สำหรับสถานการณ์น้ำในพื้นที่รับผิดชอบของสำนักงานชลประทานที่ 6 มีปริมาณฝนสะสมรวมทั้ง 5 จังหวัด ตั้งแต่ วันที่ 1 ม.ค. 64 จนถึงปัจจุบัน (21 มิ.ย. 64) เท่ากับ 379.5 มิลลิเมตร น้อยกว่าค่าฝนเฉลี่ยปกติ 67.3 มม. และน้อยกว่าฝนเฉลี่ยปี 2551 ในช่วงเวลาเดียวกัน 73.6 มม. ซึ่งถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่แตกต่างกันไม่มากนัก สำหรับอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่, ขนาดกลาง, ขนาดเล็ก รวมทั้งสิ้น 1,109 แห่ง และเขื่อนระบายน้ำในแม่น้ำชี 6 แห่ง ความจุเก็บกักรวม 5,488 ล้าน ลบ.ม. ปัจจุบัน (21 มิ.ย. 64) มีปริมาณน้ำรวมกันประมาณ 2,146 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 39 ของความจุเก็บกักรวมกันจะเห็นได้ว่าพื้นที่ลุ่มน้ำชีตอนบนและตอนกลาง ยังสามารถรองรับปริมาณน้ำได้อีก 3,342 ล้าน ลบ.ม. หรือประมาณร้อยละ 61 ของปริมาณความจุรวม สำหรับพื้นที่ลุ่มน้ำชีตอนล่าง ปัจจุบันสถานการณ์น้ำภาพรวมมีปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ ยังมีพื้นที่ที่สามารถรองรับปริมาณน้ำในฤดูฝนนี้ได้อีกมาก

จากการประชุมได้มีมติร่วมกันในการบริหารจัดการน้ำและจัดจราจรน้ำชี-มูล ฤดูฝน ปี 2564 ไว้ 2 กรณี ได้แก่
1.กรณีหากเกิดน้ำหลากในพื้นที่ลุ่มน้ำยัง (ตอนล่าง) เขื่อนยโสธร จะช่วยเร่งระบายน้ำเพิ่มเป็น 1.5-2 เท่าของปริมาณน้ำที่ไหลผ่านสถานีวัดน้ำท่าแม่น้ำชี อ.ทุ่งเขาหลวง จ.ร้อยเอ็ด (E.18) และสถานีวัดน้ำแม่น้ำยัง อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด (E.92) รวมกัน ณ ช่วงเวลาน้ำหลาก โดยไม่ให้มีผลกระทบกับพื้นที่ท้ายเขื่อนยโสธร-ธาตุน้อย-ลำน้ำมูล (M7) ด้วยการรักษาระดับ ที่ E.2A ไม่ให้มีผลกระทบกับประปาภูมิภาคสาขายโสธรและแพสูบด้วยไฟฟ้า ในกรณีที่แม่น้ำชีตอนล่าง (E.98) และแม่น้ำมูลน้ำ (M.7) มีปริมาณน้ำมาก เขื่อนอุบลรัตน์ เขื่อนลำปาวและเขื่อนในแม่น้ำชีทั้ง 4 เขื่อนที่อยู่ในพื้นที่ สชป.6 (เขื่อนชนบท, เขื่อนมหาสารคาม, เขื่อนวังยาง, เขื่อนร้อยเอ็ด) จะลดการระบายน้ำและหน่วงชะลอน้ำ เพื่อช่วยแม่น้ำชีตอนล่างและแม่น้ำมูล ตามศักยภาพสูงสุดที่จะหน่วงชะลอน้ำได้
2.กรณีน้ำน้อย เขื่อนอุบลรัตน์และเขื่อนลำปาวจะระบายน้ำช่วยสนับสนุนพื้นที่ชีตอนล่าง ซึ่งเขื่อนอุบลรัตน์ มีแผนการระบายน้ำ ฤดูฝน ปี 2564 จำนวน 1,812 ล้าน ลบ.ม. ปัจจุบันเขื่อนอุบลรัตน์ระบายน้ำวันละ 10.05 ล้าน ลบ.ม. เพื่อสนับสนุนพื้นที่การเกษตรในเขตโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาหนองหวายและเติมน้ำในแม่น้ำชีตอนกลาง-ตอนล่าง
จากการบูรณาการบริหารจัดการน้ำร่วมกันระหว่างสำนักงานชลประทานที่ 6 และ 7 ได้ร่วมกันวางแผนเตรียม ความพร้อมรับสถานการณ์ก่อนน้ำมา แผนเชิญเหตุในภาวะฉุกเฉิน และมาตรการฟื้นฟูหลังน้ำลด ตั้งแต่พื้นที่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ เพื่อลดความเสี่ยงการเกิดอุทกภัยในพื้นที่ให้เกิดผลกระทบกับประชาชนน้อยที่สุด รวมทั้งเตรียมพร้อมเครื่องจักร เครื่องมือและกำลังคน ที่พร้อมจะเข้าไปให้การช่วยเหลือบรรเทาภัยอันเกิดจากน้ำให้กับพี่น้องประชาชนอย่างเต็มศักยภาพ
งานประชาสัมพันธ์และสารสนเทศ สำนักงานชลประทานที่ 6
กรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
22 มิถุนายน 2564
